บทความ

6 วิธีฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆด้วยตัวเอง ไม่ง้อฝรั่ง

รูปภาพ
ใครอยากไปทำงานเรือสำราญ ภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญค่ะ ถ้าใครยังอ่อนอังกฤษอยู่ อยากฝึกเพิ่มแต่ไม่มีตังค์ไปลงเรียน ไม่ว่างไปเรียน ยังกลัวครูฝรั่ง เรามีวิธีฝึกภาษาง่ายๆด้วยตัวเองมาแบ่งปัน ดังนี้ค่ะ   1.      ใครที่จับมือถืออยู่ตอนนี้ เปลี่ยนเมนูเป็นภาษาอังกฤษเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้ จะได้ชินตา คำศัพท์บางคำที่ไม่เคยรู้ว่าภาษาอังกฤษคือคำว่าอะไรก็จะได้เรียนรู้จากในโทรศัพท์เราเองนี่แหละค่ะ 2.      ฟังเพลงสากล ฟังผ่านๆอาจจะไม่ค่อยได้อะไร เพราะไม่รู้ว่าร้องว่ายังไง เปิดดูเนื้อร้องไปด้วยค่ะ แล้วร้องตาม ทั้งผ่อนคลายทั้งได้ฝึกภาษา เข้า youtube พิมพ์ชื่อเพลง + lyric 3.      ดูหนัง soundtrack เลิกดูพากษ์ไทยค่ะ ดูที่ตัวละครพูดเป็นภาษาอังกฤษนั่นแหละค่ะ วิธีดูคือ รอบแรก ดูพากษ์ไทยให้รู้เรื่องก่อนว่าเรื่องมันเป็นมายังไง รอบสอง เปิด sound track แล้วเปิดซับไทยไว้ด้านล่าง เผื่อประโยคไหนฟังไม่ออก ก็มีซับไทยช่วยค่ะ รอบสาม เปิด soundtrack แล้วเปิดซับภาษาอังกฤษค่ะ ดูมาสองรอบแล้ว น่าจะรู้เรื่องแล้วว่าเป็นมายังไง ทีนี้จะได้ทั้งฟังและอ่าน ถ้าประโยคไหนไม่ยากเกินไป ฟังทันก

อุปกรณ์ ของใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างในcabin

โพสต์นี้มาพูดถึงความเป็นอยู่บ้าง ทำงานบนเรือจะมีห้องพักลูกเรือค่ะ เรียกว่า “Cabin” ( อ่านว่า เค - บิ้น ) สำหรับลูกเรือตำแหน่งทั่วไปก็ได้เคบินแบบแชร์ คือเราจะอยู่กับเคบินเมท 1 คน ก็คือ 1 เคบินอยู่กัน 2 คน เป็นเตียง bunk bed เตียงสองชั้น มีม่านกั้นให้ด้วย ส่วนห้องน้ำก็อยู่ในเคบินค่ะ แต่จะแชร์กับเคบินข้างๆเป็นเคบินเพื่อนบ้าน ห้องน้ำคือเปิดเข้าได้ทั้งสองฝั่งเลยค่ะ บางทีเพื่อนบ้านลืมคีย์การ์ด เค้าก็มาขอเข้าห้องผ่านทางเคบินเรา เดินทะลุห้องน้ำไป พอจะนึกภาพออกมั้ยคะ ? ห้องน้ำมีน้ำอุ่นค่ะ ก๊อกปรับอุ่นได้ ไม่ต้องกลัวว่าถ้าอากาศหนาวจะอาบน้ำไม่ได้ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆในห้องมีดังนี้ ทีวีจอแบน จอใหญ่มาก พร้อมรีโมท มีหนังหลายเรื่องให้เลือกดูได้ มีข่าวให้ดู พยากรณ์อากาศ ตำแหน่งของเรือ ถ้าเราอยากรู้ว่าเรือเราอยู่ไหน ถึงไหนแล้ว ก็จะมีบอกหมดเลยค่ะ รวมไปถึง ประกาศต่างๆ เช่น วันพรุ่งนี้มี crew shopping ทางเรือก็จะแจ้งไว้บนจอทีวีค่ะ ถ้าอยากรู้อัพเดทอะไรก็คือเปิดทีวีเช็คได้เลย โต๊ะอ่านหนังสือพร้อมลิ้นชัก มีเก้าอี้พับให้ด้วย 1 ตัว โทรศัพท์ 1 เครื่อง ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ ใช้คนละตู้กับเคบินเมท Life ja

ทำไมคนถึงลาออกจากงานเรือสำราญ

รูปภาพ
“ งานเรือ กินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวรอบโลก “ ถ้าดีขนาดนี้ทำไมมีหลายคนไม่ทำต่อ งานเรือไม่เหมือนงานงานบนฝั่งค่ะ ถ้าทำงานบนฝั่งเวลาเลิกงานเราก็กลับบ้าน แต่ถ้าไปทำงานบนเรือ คือเราให้ชีวิตอยู่บนนั้น เป็นเวลาหลายๆเดือน เหตุผลที่คนยังทำได้เป็นสิบๆปีสิบๆคอนแทรค หลักๆเลยคือ เงินค่ะ คนที่มาทำงานเรือ แน่นอนค่าเงินที่ได้ถ้าคูณกลับไปเป็นเงินประเทศตัวเอง ได้เยอะกว่า แถมค่ากินค่าอยู่ก็ไม่เสีย ได้เงินก้อนกลับบ้าน ส่งให้ครอบครัว ทำให้คุณภาพชีวิตครอบครัว ความเป็นอยู่ของคนทางบ้านดีขึ้นมาก เพราะถ้าทำงานบนฝั่งในประเทศตัวเองไม่รู้ต้องทำอีกกี่สิบปี เวลาไปทำงานก็ไม่เจอปัญหารถติดค่ะ แค่ออกจากเคบินมาแล้วก็กดลิฟต์ไปแผนกที่เราทำงาน ไม่หงุดหงิด เสียสุขภาพจิต และไม่มีปัญหาเรื่องมลภาวะ เพราะอยู่กลางทะเล อีกหนึ่งเหตุผลจากการคุยกับเพื่อนบนเรือที่ทำงานเรือมา 20 ปี เค้าบอกว่า “ ต้องรักในงานที่ทำ ” ซึ่งก็ถือว่าถูกต้องที่สุดค่ะ ทุกๆงานบนโลกนี้ ถ้าไม่รักในงานก็จะไม่มีความสุข และไม่อยากมาทำงานสุดท้ายก็ต้องลาออกไปทำงานอย่างอื่นอยู่ดี  ส่วนเหตุผลที่ทำคอนแทรคเดียวแล้วเลิกหรือทำแค่ 2-3 คอนแทรคแล้วเลิก ไม่ไปแล้ว “ ไม่ชอบ ship

แชร์ประสบการณ์ Medical Disembarkation

รูปภาพ
ถ้าไม่สบายไปหาหมอบนเรือได้ แต่ระวังหมอส่งกลับบ้าน  “small things become big things” เพื่อนลูกเรือของเรากล่าวไว้ และก็เป็นความจริงค่ะ คอนแทรคแรกบริษัทจ้างไปทำงาน 8 เดือน เราอยู่ได้ 30 วันก็ต้องบินกลับไทย เพราะป่วย มีวันนึงที่ทำงานแล้วรีบ เหยียบบันไดไม่เต็มเท้าแล้วเหมือนเส้นพลิก ( กลับมาหาหมอที่ไทยหมอบอกเป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบ ) ปวดและบวมเพราะเดินทั้งวัน แถมพื้นรองเท้าแข็งและรองเท้าหนักมาก จนเราทนมาเข้าวันที่ 5 เริ่มไม่ไหวเลยไปหาหมอ เอ็กซ์เรย์ข้อเท้า แล้วก็ให้ที่รัดข้อเท้ามา บวกกับยาแก้ปวดครอบจักรวาล จากนั้นก็พักที่เคบินไม่ต้องไปทำงาน ไม่ต้องโทรไปลาปาวยกับหัวหน้า เพราะหมอจะส่งอีเมลแจ้งหัวหน้าโดยตรงว่าเรา sick leave เช้าวันต่อมา ไปตามนัดหมอ เจอหมออีกคนนึง หมอถามดีขึ้นมั้ย ถ้าดีขึ้น วันนี้ให้พักอีกวันแล้ว พรุ่งนี้กลับไปทำงาน ตอนเย็นวันเดียวกัน หมอผู้หญิงที่ตรวจเราคนแรก โทรให้ไปหา หมอบอกว่าซูมดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์ หมอบอกเห็นกระดูข้อเท้าเราแตกนิดหน่อย แล้วให้รองเท้าบูทมาใส่ ( ตามรูป ) หมอให้ตัวเลือกมาว่าจะใส่บูทนี้แล้วกลับไปทำงาน หรือจะ Go Home ( กลับบ้าน ) เรานี่งงเลย จะใส่บูทแล้วท

การจ่ายเงินเดือน (Payday)

รูปภาพ
มาถึงเรื่องสำคัญกันบ้าง นั่นคือเงินเดือน ไปทำงานต้องได้เงินเดือน มาดูว่าบนเรือได้เงินยังไง ที่นี่เงินจะออกทุกๆ 2 อาทิตย์ มี Mid-payday กับ final payday Mid-payday เงินจะออกประมาณวันที่ 16-17 ของทุกเดือน Final payday เงินจะออกประมาณวันที่ 4-5 ของทุกเดือน โดยเงินจะโอนเข้าบัญชีที่ชื่อว่า Brightwell มีบัตรเดบิตให้ด้วยนะ ถ้าออกไปข้างนอกก็ใช้บัตรกดตังค์ได้ จ่ายตังค์ซื้อของได้ มีแอพลิเคชั่นให้โหลดไว้ในมือถือด้วย ในแอพก็เหมือนกับแอพธนาคารไทยที่เราใช้กันนี้แหละ เช็คยอดเงินได้ โอนเงินได้ ส่วนใครจะแบ่งเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารไทยก็ไม่มีปัญหา เราก็ตั้งค่าไปเลย ให้โอนเข้าธนาคารไทยกี่เปอร์เซ็นต์ เช่นเราจะตั้งโอนเข้า Brightwell 20% โอนเข้าบัญชีธนาคารไทย 80 % เป็นต้น ส่วนเงินที่เหลือในบัตร จะโอนตามมาทีหลังก็ได้ แต่เสียค่าโอนประมาณ 200 บาทต่อครั้ง แต่ถ้าตั้งค่าไว้ก่อนแล้วก็คือไม่เสียค่าโอน แล้วก็ปรับเปลี่ยนสัดส่วนได้ตามสะดวก ถ้าอยากได้เงินสดก็ไปที่ฝ่ายบุคคล ไปเบิกเงินสดได้ค่ะ เค้าก็จะหักจากบัญชีเรานั่นแหละ ถ้าเหลือเท่าไหร่ ยอดที่เหลือก็จะโอนเข้าวัน payday     ติดตามชีวิตลูกเรือสำราญ

อยู่บนเรือซักผ้ายังไง?

รูปภาพ
สวัสดีค่ะทุกคน สำหรับโพสต์นี้จะมาเล่าถึงความเป็นอยู่บนเรือค่ะ โพสต์นี้จะมาเล่าถึงการซักผ้าบนเรือค่ะ สำหรับการซักผ้านั้น บนเรือจะมีห้อง laundry ค่ะ อย่างเรือที่เราอยู่มี 3 ห้อง 2 ห้องเล็กกับ 1 ห้องใหญ่ อย่างคอนแทรคล่าสุด เคบินเราอยู่ตรงข้ามกับห้อง laundry เลยซึ่งชีวิตดีมากๆ ไม่ต้องแบกเสื้อผ้าเดินไกลๆ ถ้าขึ้นไปบนเรือควรหาถุงผ้าใหญ่ๆไปด้วยนะคะ เอาไว้ใส่เสื้อผ้าไปซัก ของเราซื้อถุงกระสอบลายการ์ตูนค่ะ สะดวกมากๆ แล้วก็ซื้อผงซักฟอกไปด้วยนะคะ ในห้อง laundry จะมีเครื่องซักผ้าแล้วก็เครื่องอบผ้าค่ะ นำผ้าไปใส่ ใส่ผงซักได้เลย ฟรี ! แต่เครื่องอาจจะไม่ได้ว่างตลอด เพราะลูกเรือมีเป็นพันคน แถมบางเครื่องก็พัง ไปห้อง laundry บางทีเครื่องก็เต็ม บางคนก็ไปนั่งรอเครื่องซักผ้าเลยก็มี รอจนกว่าเครื่องจะว่าง   ของเราเลิกงานสี่ทุ่ม ไปซักผ้า แต่เครื่องเต็ม ขี้เกียจรอและขี้เกียจเดินไปเช็คหลายๆรอบ ก็เลยตื่นตี 4 มาซักผ้าค่ะ ซึ่งตี 4 มีเครื่องว่างแน่นอน ไม่ต้องรอ ถ้าเราซักผ้าไว้แล้วลืมไปเอาออก ก็ไม่ต้องห่วง ถ้ามีคนมาใช้ต่อเค้าก็จะเอาผ้าออกไปใส่เครื่องอบให้เราค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าเสื้อผ้าหายไปไหนหมด ฮ่าๆ แต่ถึงกระนั

รูปแบบของ Gangway

รูปภาพ
รูปแบบของ Gangway มีอยู่ 3 แบบหลักๆ จากการสังเกตของเราที่เป็นลูกเรืออยู่บนเรือนะ แบบที่ 1 แบบพาดออกมาที่พื้นแล้วเดินออกได้เลย ไม่ผ่านเทอมินอล คือเท้าเหยียบพื้นแล้วเดินเที่ยวได้เลย แบบนี้จะไม่ค่อยเสียเวลา เพราะเวลาออกไปเที่ยวต้องกะเวลาต่อแถว รอสแกนสิ่งของต่างๆ กว่าจะผ่านได้แต่ละด่าน ใช้เวลา เดี๋ยวกลับไปเปลี่ยนชุด กลับไปทำงานไม่ทัน สำหรับเราชอบ gangway แบบนี้ แบบที่ 2 แบบจ่อไปกับสะพานเทียบ นึกถึงเวลาเราเดินขึ้นเครื่อง เดินผ่านสะพานเทียบงวงแบบนั้นเลย เวลาจะออกก็ต้องเดินไปตามทาง แล้วก็จะไปโผล่ในเทอมินอล กว่าขาจะถึงแผ่นดินจริงๆ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที แบบที่ 3 Tender อันนี้คือเรือจอดติดท่าเรือไม่ได้ ต้องใช้วิธีทิ้งสมออยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แล้วใช้เรือเล็ก ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็น life boat อาจจะเป็นเรือคล้ายๆเรือข้ามฟาก เอาไว้ส่งแขกจากเรือสำราญขึ้นไปเที่ยวบนฝั่ง ถ้าวันไหนเป็น tender ต้องคิดเผื่อเวลาต่อแถว เวลารอ tender ออก ไหนจะเวลาที่อยู่บน tender แล้วขึ้นฝั่งอีก ถ้ามีเวลาเบรคแค่ 2 ชั่วโมง ไม่ค่อยน่าออกเท่าไหร่ เพราะหักลบเวลาแล้ว ไม่คุ้ม เราชอบแบบแรกที่สุด เพราะวิ่งเข้าวิ่งออกง